• โตโยต้า นครพิงค์ เชียงใหม่ | Toyota Nakornping Chiangmai

No products in the cart.

Read More
Print

รู้ไว้ใช่ว่า เลขบนแบตเตอรี่รถยนต์บอกอะไรเราบ้าง

คนที่กำลังจะเปลี่ยนแบตเตอรีรถยนต์หลายๆ คนคงยังไม่รู้ว่าตัวเลขบนแบตเตอรี่นั้นมีความหมายอยู่ ซึ่งเราควรมีความรู้เบื้องต้นของขัอมูลแบตเอาไว้ วันนี้โตโยต้านครพิงค์เชียงใหม่ เลยจะมาสอนวิธีดูเลขรหัสบนแบตเตอรี่รถยนต์กัน

รู้ไว้ใช่ว่า เลขบนแบตเตอรี่รถยนต์บอกอะไรเราบ้าง

เราจะเห็นโครงสร้างรหัส คือ ตัวเลข 2 หลัก / ตัวอักษรภาษาอังกฤษ / ตัวเลข 2 หลัก / ตัว L หรือ R รหัสตัวอย่าง 44B19L 

44 = รหัสรุ่นของแบตเตอรี่ (ไม่ได้หมายถึงขนาดความจุหรือแอมป์)กรณีที่อยากรู้ว่าแบตฯ ลูกนั้นกี่แอมป์ ให้ดูเลขหน้าคำว่า Ah เช่น 75Ah หมายถึง 75 แอมป์ 

B หรือ D = ไซส์ความกว้างแบตเตอรี่ (ซม.)B = 13.5-14.0 ซม. (โดยประมาณ)

D = 17.5-18.0 ซม. (โดยประมาณ) 

19 = ความยาวของแบตเตอรี่ (ซม.) 

L หรือ R = ตัวระบุตำแหน่งขั้วบวกของแบตเตอรี่(L อยู่ด้านซ้ายของแบตเตอรี่)(R อยู่ด้านขวาของแบตเตอรี่)

เป็นอย่างไงกันบ้างกับวิธีอ่านตัวเลขบนแบตเตอรี่ ทีนี้เพื่อนๆ คงรูแล้วว่าตัวเลขแต่ละตัวมีความหมายอย่างไร จะแบตเตอรี่ตรั้งต่อไปจะได้เลือกแบตที่เหมาะสมกับรถเรา แต่ถ้าใครคิดจะเปลี่บยนแบตเตอรี่อยู่แนะนำให้มาที่ศูนย์บริการโตโยต้านครพิงค์ เชียงใหม่ทั้ง 3 สาขา เรายินดีให้บริการ

Read More
Print

5 พฤติกรรมเสี่ยง ทำแบตเตอรี่รถเสื่อมเร็ว มาเช็คกันเลย ว่าคุณมีพฤติกรรมเหล่านี้หรือไม่

แบตเตอรี่ เป็นแหล่งพลังงานสำหรับรถยนต์ที่ช่วยสตาร์ทเครื่องยนต์ และเป็นแหล่งเก็บสำรองพลังงานไฟฟ้า โดยปกติแล้ว อายุการใช้งานแบตเตอรี่รถยนต์ อยู่ที่ 1 ปีครึ่งถึง 2 ปี ขึ้นอยู่กับการใช้งาน มาดูกันว่า 5 พฤติกรรมเสี่ยง ที่ทำให้แบตเตอรี่เสื่อมเร็วกว่าที่ควรจะเป็นมีอะไรบ้าง

5 พฤติกรรมเสี่ยง ทำแบตเตอรี่รถเสื่อมเร็ว มาเช็คกันเลย ว่าคุณมีพฤติกรรมเหล่านี้หรือไม่

1.การจอดรถยนต์ทิ้งไว้เป็นเวลานานๆ โดยไม่ถูกสตาร์ทหรือนำมาใช้ เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพเร็วกว่ากำหนด เพราะขณะที่รถถูกจอดทิ้งไว้แบตเตอรี่ยังคงจ่ายไฟไปเลี้ยงระบบต่างๆ ในรถยนต์ ทำให้กำลังไฟในแบตเตอรี่อ่อนลงเรื่อยๆ

2.การดัดแปลงไดชาร์จ ทำให้สัดส่วนของกระแสไฟในการชาร์ตแบตเตอรี่ เกิดอาการ Over Charge และแบตเตอรี่จะเกิดการชาร์ตถี่และบ่อยเกินไป ส่งผลให้แบตเตอรี่เสื่อมเร็วขึ้น

3.ลืมปิดไฟหน้าและไฟในห้องโดยสารหลังจากดับเครื่องยนต์บ่อยๆ จะทำให้แบตเตอรี่คายประจุไฟฟ้าต่อเนื่อง ส่งผลให้แบตเตอรี่เสื่อมก่อนเวลาอันควร

4.ใช้เครื่องเสียง หรือ อุปกรณ์ไฟฟ้าภายในรถยนต์ขณะดับเครื่องยนต์ เพราะแหล่งพลังงานที่จะถูกนำมาใช้นั้น จะมาจากแบตเตอรี่รถของเราโดยตรง ซึ่งอุปกรณ์เหล่านี้ ล้วนแล้วแต่กินพลังงานของแบตเตอรี่ทั้งนั้น  ยิ่งมีการเสียบใช้อย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน หรือบ่อยครั้ง อาจะมีความเสี่ยงที่เครื่องยนต์จะดับ หรือส่งผลให้แบตเตอรี่เสื่อมเร็วได้

5.ขาดการดูแลรักษาแบตเตอรี่ แบตเตอรี่รถยนต์นั้นควรได้รับการดูแลอย่างสม่ำเสมอ ควรหมั่นคอยสังเกตขั้วแบตเตอรี่ว่ามีสนิมหรือขี้เกลือหรือไม่ หรือการถอดแบตเตอรี่ออกเมื่อไม่ได้มีการใช้งานจะช่วยลดการคายประจุไฟฟ้า ของแบตเตอรี่ สำหรับแบตเตอรี่แบบเติมน้ำกลั่น ควรเติมน้ำกลั่นให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันไม่ให้ระดับน้ำต่ำกว่าขีดที่โรงงานกำหนด ซึ่งจะช่วยแบตเตอรี่ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

เป็นอย่างไรกันบ้างกับ 5 พฤติกรรมเสี่ยงที่อาจทำให้แบตเตอรี่รถของคุณเสื่อมโดยไม่รู้ตัว และอาจต้องเสียเงินเพื่อเปลี่ยนแบตเตอรี่รถเร็วขึ้น หรือที่แย่ไปกว่านั้นรถของคุณอาจจะสตาร์ทไม่ติดเมื่อถึงเวลาเร่งรีบ ดังนั้นหมั่นตรวจเช็คระบบไฟในรถด้วยการนำรถมาเช้าศูนย์บริการที่ โตโยต้านครพิงค์ เชียงใหม่ ได้เลยค่ะ 

Read More
Print

วิธีดูแลแบตเตอรี่รถยนต์ง่ายๆ ให้พร้อมใช้งานตลอดเวลา 

สวัสดีเจ้า~ กลับมาเจอกับน้องพิงค์กันอีกแล้ว วันนี้น้องพิงค์เอาสาระน่ารู้เรื่องรถมาฝาก เชื่อว่าช่วงนี้หลายๆ คนกำลังวางแพลนเดินทางเที่ยวกันอยู่อย่างแน่นอน แต่จะก่อนเดินทางเราควรเช็คสภาพรถให้ดีก่อน โดยเฉพาะแบตเตอรี่รถของเรา ถ้าหากเดินทางไปแล้วแบตเตอรี่หมดคงเกิดปัญหาไม่ใช่น้อย วันนี้เลยเอาวิธีดูแลแบตเตอรี่มาฝากกัน

วิธีดูแลแบตเตอรี่รถยนต์ง่ายๆ ให้พร้อมใช้งานตลอดเวลา

วิธีดูแลแบตเตอรี่

1 .เช็คสภาพภายนอกของแบตเตอรี่อย่างสม่ำเสมอ

ดูแลแบตเตอรี่รถยนต์ ก็คือ การตรวจสอบอย่าให้มีรอยแตกร้าว เพราะจะทำให้แบตเตอรี่จะไม่เก็บประจุไฟฟ้าอาการบวมหรือเสียรูปของแบตเตอรี่ เกิดจากความร้อนหรือการประจุไฟเกินหรือการระบายแรงดันไม่ดี หากแบตเตอรี่มีการแตกร้าว ต้องดูว่ามีร่องรอยการซึมออกมาของกรดหรือของเหลวที่บรรจุภายในหรือไม่ ถ้าหากมีรอยรั่วหรือรอยแตก

2.ตรวจเช็กระบบไฟชาร์จของอัลเตอร์เนเตอร์

การตรวจสอบระบบไฟชาร์จต่ำหรือสูงไปไหม ถ้าต่ำไปจะมีผลทำให้กำลังไฟไม่พอใช้ในขณะสตาร์ตเครื่องยนต์ หรือถ้าสูงไปจะทำให้ น้ำกรดและน้ำกลั่นอยู่ภายในเดือดและระเหยเร็ว

3.ดูแลขั้วแบตเตอรี่ให้สะอาดพร้อมสำหรับการใช้งานอยู่เสมอ

การดูแลแบตเตอรี่รถยนต์ ถ้ามีคราบเกลือหรือสกปรกเกิดขึ้น ให้ทำความสะอาด ขยับดูขั้วแบตเตอรี่ว่าแน่นดีหรือไม่ ถ้าขยับได้ควรขันให้แน่น เช็คว่าขั้วของแบตเตอรี่สกปรกหรือมีขี้เกลือเกาะติดหรือเปล่า กรณีที่ติดตั้งตรั้งแรกควรซื้อแผ่นรองขั้งแบตที่ชุบสารหล่อลื่นไส่ที่ขั้วแบตตั้งแต่แรก แต่ถ้าขั้วแบตสกปรกก็ควรทำความสะอาดด้วยการใช้น้ำอุ่นถึงร้อนค่อยๆเทราดลงไปที่ขั้งแบตแล้วใช้แปรงสีฟันเก่าขัดจนขั้วสะอาด จากนั้นเช็ดให้แห้งแล้วใช้จาระบีหรือวาสลีนทาบางๆให้ทั่วที่ขั้วแบตเตอรี่

4.ตรวจสภาพของระดับน้ำกลั่นแบตเตอรี่ให้อยุ่ในระดับที่พอเหมาะ

การดูแลแบตเตอรี่รถยนต์ ตรวจระดับน้ำกลั่นให้ได้ตามระดับที่กำหนดในแบตเตอรี่ ถ้าเป็นแบตชนิดที่ต้องเติมน้ำกลั่นควรเช็คและเติมน้ำกลั่นให้อยู่ในช่วงระดับ ไม่ควรให้ระดับน้ำกลั่นต่ำกว่าขีดล่างสุดมากกว่า ๕ มม.หรือครึงซม.แม้ว่าระดับดังกล่าวของเหลวยังคงสูงกว่าแผ่นธาตุแต่ถ้ารถเอียงหรือทางลาดชันจะทำให้ระดับของเหลวไม่ท่วมแผ่นธาตุ และไม่ควรเติมสูงเกินไป จะทำให้ขั้วแบตสกปรกจากขี้เกลือเร็วขึ้นมาก

5.การใช้งานรถยนต์ช่วงที่มีอากาศหนาวหรืออุณหภูมิต่ำเพื่อการถนอมแบตเตอรี่

ประสิทธิภาพการแพร่กระจายของน้ำกรดและน้ำกลั่นจะด้อยลง เพราะฉะนั้นควรหลีกเลี่ยงการใช้กระแสไฟมากๆ ขณะอากาศเย็น แต่สำหรับเมืองไทยเราคงไม่ค่อยพบกับปัยหาเหล่านี้นัก เพราะอากาศจะร้อน ร้อนมาก และร้อนมากที่สุดเสียเป็นส่วนใหญ่

6.ควรศึกษาถึงการใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ

อุปกรณ์เสริมที่ใช้กำลังไฟเยอะ เช่น ระบบเครื่องเสียง ไฟตัดหมอก ฯลฯ ให้เหมาะสมกับแบตเตอรี่และไดชาร์จ เพื่อที่จะให้วงจรการไหลของไฟฟ้าเป็นไปด้วยดี

หวังว่าเพื่อนๆ ทุกคนจะเอาวิธีการดูแลแบตเตอรี่ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ และทริปเที่ยววันหยุดที่จะถึงนี้ ขอให้เพื่อนๆ เดินทางอย่างปลอดภัย และมีความสุขค่ะ

btn_line
btn_facebook

Read More

วิธีดูแลแบตเตอรี่รถยนต์ง่ายๆ ให้วันหยุดนี้เดินทางอย่างหายห่วง

สวัสดีเจ้า~ กลับมาเจอกับน้องพิงค์กันอีกแล้ว วันนี้น้องพิงค์เอาสาระน่ารู้เรื่องรถมาฝาก เชื่อว่าช่วงหน้าหนาวนี้หลายๆ คนกำลังวางแพลนเดินทางเที่ยวกันอยู่อย่างแน่นอน แต่จะก่อนเดินทางเราควรเช็คสภาพรถให้ดีก่อน โดยเฉพาะแบตเตอรี่รถของเรา ถ้าหากเดินทางไปแล้วแบตเตอรี่หมดคงเกิดปัญหาไม่ใช่น้อย วันน้ีเลยเอาวิธีดูแลแบตเตอรี่มาฝากกัน

วิธีดูแลแบตเตอรี่รถยนต์ง่ายๆ ให้วันหยุดนี้เดินทางอย่างหายห่วง

1 .เช็คสภาพภายนอกของแบตเตอรี่อย่างสม่ำเสมอ
ดูแลแบตเตอรี่รถยนต์ ก็คือ การตรวจสอบอย่าให้มีรอยแตกร้าว เพราะจะทำให้แบตเตอรี่จะไม่เก็บประจุไฟฟ้าอาการบวมหรือเสียรูปของแบตเตอรี่ เกิดจากความร้อนหรือการประจุไฟเกินหรือการระบายแรงดันไม่ดี หากแบตเตอรี่มีการแตกร้าว ต้องดูว่ามีร่องรอยการซึมออกมาของกรดหรือของเหลวที่บรรจุภายในหรือไม่ ถ้าหากมีรอยรั่วหรือรอยแตก

2.ตรวจเช็กระบบไฟชาร์จของอัลเตอร์เนเตอร์
การตรวจสอบระบบไฟชาร์จต่ำหรือสูงไปไหม ถ้าต่ำไปจะมีผลทำให้กำลังไฟไม่พอใช้ในขณะสตาร์ตเครื่องยนต์ หรือถ้าสูงไปจะทำให้ น้ำกรดและน้ำกลั่นอยู่ภายในเดือดและระเหยเร็ว

3.ดูแลขั้วแบตเตอรี่ให้สะอาดพร้อมสำหรับการใช้งานอยู่เสมอ
การดูแลแบตเตอรี่รถยนต์ ถ้ามีคราบเกลือหรือสกปรกเกิดขึ้น ให้ทำความสะอาด ขยับดูขั้วแบตเตอรี่ว่าแน่นดีหรือไม่ ถ้าขยับได้ควรขันให้แน่น เช็คว่าขั้วของแบตเตอรี่สกปรกหรือมีขี้เกลือเกาะติดหรือเปล่า กรณีที่ติดตั้งตรั้งแรกควรซื้อแผ่นรองขั้งแบตที่ชุบสารหล่อลื่นไส่ที่ขั้วแบตตั้งแต่แรก แต่ถ้าขั้วแบตสกปรกก็ควรทำความสะอาดด้วยการใช้น้ำอุ่นถึงร้อนค่อยๆเทราดลงไปที่ขั้งแบตแล้วใช้แปรงสีฟันเก่าขัดจนขั้วสะอาด จากนั้นเช็ดให้แห้งแล้วใช้จาระบีหรือวาสลีนทาบางๆให้ทั่วที่ขั้วแบตเตอรี่

 

4.ตรวจสภาพของระดับน้ำกลั่นแบตเตอรี่ให้อยุ่ในระดับที่พอเหมาะ
การดูแลแบตเตอรี่รถยนต์ ตรวจระดับน้ำกลั่นให้ได้ตามระดับที่กำหนดในแบตเตอรี่ ถ้าเป็นแบตชนิดที่ต้องเติมน้ำกลั่นควรเช็คและเติมน้ำกลั่นให้อยู่ในช่วงระดับ ไม่ควรให้ระดับน้ำกลั่นต่ำกว่าขีดล่างสุดมากกว่า ๕ มม.หรือครึงซม.แม้ว่าระดับดังกล่าวของเหลวยังคงสูงกว่าแผ่นธาตุแต่ถ้ารถเอียงหรือทางลาดชันจะทำให้ระดับของเหลวไม่ท่วมแผ่นธาตุ และไม่ควรเติมสูงเกินไป จะทำให้ขั้วแบตสกปรกจากขี้เกลือเร็วขึ้นมาก

5.การใช้งานรถยนต์ช่วงที่มีอากาศหนาวหรืออุณหภูมิต่ำเพื่อการถนอมแบตเตอรี่
ประสิทธิภาพการแพร่กระจายของน้ำกรดและน้ำกลั่นจะด้อยลง เพราะฉะนั้นควรหลีกเลี่ยงการใช้กระแสไฟมากๆ ขณะอากาศเย็น แต่สำหรับเมืองไทยเราคงไม่ค่อยพบกับปัยหาเหล่านี้นัก เพราะอากาศจะร้อน ร้อนมาก และร้อนมากที่สุดเสียเป็นส่วนใหญ่

6.ควรศึกษาถึงการใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ
อุปกรณ์เสริมที่ใช้กำลังไฟเยอะ เช่น ระบบเครื่องเสียง ไฟตัดหมอก ฯลฯ ให้เหมาะสมกับแบตเตอรี่และไดชาร์จ เพื่อที่จะให้วงจรการไหลของไฟฟ้าเป็นไปด้วยดี

หวังว่าเพื่อนๆ ทุกคนจะเอาวิธีการดูแลแบตเตอรี่ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ และทริปเที่ยววันหยุดที่จะถึงนี้ ขอให้เพื่อนๆ เดินทางอย่างปลอดภัย และมีความสุขค่ะ 

ดูข้อมูลแบตเตอรี่รถยนต์จากโตโยต้าคลิ๊ก>> https://aftersales.toyota.co.th/products/battery

https://toyotanakornping.setmore.com/